วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

บทที่ 2 ประวัติศาสตร์การท่องเที่ยวจากยุคเริ่มต้นถึงช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

การท่องเที่ยวในยุคกลาง (ค.ศ.500-1500)
เป็นช่วงที่วันหยุดมีบทบาทในชืวิตคนมากขึ้น แต่สำหนับชาวคาทอลิกทั่วไปการหยุดเพื่อการพักผ่อน หมายถึงพักผ่อนจาการไม่ทำงาน ไม่ใช่เดินทางไปไหนมาไหน เเต่ถ้าเปนคนชั้นสูงจะนิยมเดินทางเพื่อแสวงหาบุญปัญหาที่คนยุคกลางเจอในการท่องเที่ยวคือ โจรผู้ร้ายที่คอยออกมาปล้นนักเดินทาง มัคคุเทศก์ในสมัยนั้นจึงเป็นผู้นำทางและเป็ฯผู้ปกป้องนักเดินทาง ผลของการเดินทางแสวงบุญมี 3 ประเด็น คือ
1. มีเป้าหมายของการเดินทางเด่นชัดได้แก่การแสวงบุญ
2. ผลการเดินทางมีความสำคัญและความหมายทางด้านจิตใจเพราะเป็นเหตุการณ์สำคัญแห่งชีวิต
3. ผู้แสวงบุญต้องการให้คนอื่นเห็ฯถึงความสำความสำเร็จแห่งการเดินในรูปของที่ระลึก
การพัฒนาคนการคมนาคมทางถนนในคริสตศตวรรษที่ 17 ถึงต้นศตวรรษที่ 19
คนที่ต้องการเดินทางมี 3 วิธี คือ การเดินทางด้วยเท้าของคนจน วิที่สองคือการขี่ม้า วิธีสุดท้ายคือ ใช้เสลี่ยงแล้วมีคนรับใช้เป็นผู้แบกเป็นวิธีเดินทางของชนชั้นสูงเท่านั้น
ศตวรรษที่18 เริ่มการพัฒนาเป็นรถ 4 ล้อ มีระบบทางด่วนของผู้โยสารโดยมีปรับปรุงพื้นจราจรใหม่
ส่วนการเดินทางระยะไกลๆเรื่องที่พักเป็นสิ่งสำคัญเป็นประเภทinn เป็นที่พักที่เกิดขึ้นมากมายในสมัยนั้น
ในศตวรรษที่ 20 รูปแบบการเดินทางเปลี่ยนไปความนิยมในการเดินทางด้วยรถไฟเริ่มลดลงเพราะคนนิยมเดินทางด้วยรถส่วนตัว มีการกำเนิดอุตสาหกรรมการบินในระยะแรกเป็นจุดบ่งบอกที่สิ้นการเดินทางด้วยรถไฟ หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เครื่องบินได้รับการพัฒนามากและดีพอที่จะทำการขนส่งผูโดยสารเป็นการพาณิชย์และเป็ฯการบินระหว่างประเทศ

1 ความคิดเห็น: