วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์

ค่ายบางกุ้ง, สมุทรคราม
ค่ายบางกุ้ง เป็นค่ายทหารเรือไทยที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ยกกองทัพเรือมาตั้งค่ายที่ค่ายบางกุ้ง เรียกว่า "ค่ายบางกุง้" โดยสร้างกำแพงล้อมวัดบางกุ้งให้อยู่กลางค่าย เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นที่เคารพบูชาของทหาร ภายหลังเสียกรุงครั้งที่ 2 ค่ายบางกุ้งก็ร้างไปจนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสถาปนากรุงธนบุรี เป็นราชธานีจึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้ชาวจีนจากระยอง ชลบุรี ราชบุรี และกาญจนบุรีรวบรวมผู้คนมาตั้งกองทหารรักษาค่าย จึงมีชื่อเรียกอีกหนึ่งว่า "ค่ายจีนบางกุ้ง" ในปี พ.ศ. 2311 พระเจ้ากรุงอังวะทรงยกทัพผ่านกาญจนบุรีมาล้อมค่ายจีนบางกุ้ง สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงโปรดเกล้าฯ ให้พระมหามนตรี (บุญมา) เป็นแม่ทัพยกไปช่วยเหลือทหารจีนขับไล่กองทัพพม่าทำให้ข้าศึกแตกพ่าย หลังจากนั้นค่ายบางกุ้งแห่งนี้ก็ถูกปล่อยให้รกร้างเกือบ 200 ปี จนมาถึง พ.ศ.2510 กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้ตั้งเป็นค่ายลูกเสือขึ้น (ปัจจุบันได้ยกเลิกไปแล้ว) และได้สร้างศาลพระเจ้าตากสินไว้เป็นอนุสรณ์
สิ่งที่น่าสนใจ โบสถ์ปรกโพธิ์ เป็นอุโบสถหลังเดิมที่สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี จะถูกปกคลุมด้วยรากไม้ใหญ่ทั้งโพ ไทร ไกร และกร่าง มองจากภายนอกคิดว่าเป็นกลุ่มต้นไม้ใหญ่ มากกว่ามีโบสถ์อยู่ข้างใน รากไม้เหล่านี้ช่วยให้โบสถ์คงรูปอยู่ได้ ทั้งยังให้ความขรึมขลังอีกด้วย ภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐาน ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อโบสถ์น้อย (หลวงพ่อนิลมณี) และเรียกโบสถ์ว่า "โบสถ์ปรกโพธิ์" และมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง สมัยปลายกรุศรีอยุธยาเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ


ประวัติ

วัดบางกุ้ง เป็นวัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยาเช่นกัน อยู่คนละฝั่งกับค่ายบางกุ้งโดยมีถนนผ่านกลาง สิ่งที่น่าสนใจในวัดนี้ได้แก่ คัมภีร์โบราณ ส่วนมากจะเป็นตำรายาโบราณ และบริเวณหน้าวัดด้านที่ติดกับแม่น้ำแม่กลอง จะมีปลาน้ำจืดต่างๆ อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จนได้ชื่อว่า "วังมัจฉา"



การเดินทาง
-ทางรถยนต์ จากตัวเมืองสมุทรสงคราม ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 325 (แม่กลอง-อัมพวา) ประมาณ 5 กม. เลยวัดบางกะพ้อม (ยังไม่ถึงตลาดอัมพวา) ให้สังเกตทางแยกซ้ายมือ เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง(สะพานสมเด็จพระศรีสุริเยนทร์) ตรงไปถึง ถึงสามแยกเลี้ยวขวา ตรงไปผ่านวัดภุมรินทร์ จนถึงสามแยก (มีวัดบางแคใหญ่อยู่ขวามือ) เลี้ยวขวา ตรงไปผ่านวัดบางแคน้อย วัดปากน้ำ ข้ามสะพานคลองแควอ้อม สังเกตค่ายบางกุ้งอยู่ซ้ายมือ จะเห็นแนวกำแพงของค่าย -รถประจำทาง
จากตัวเมืองสมุทรสงคราม นั่งรถโดยสารสองแถว สายแม่กลอง-วัดปราโมทย์ คิวรถอยู่บริเวณธนาคารนครหลวงไทย สาขาสมุทรสงคราม รถจะวิ่งผ่านค่าย

บทที่ 7 ตัวแทนจำหน่ายการท่องเที่ยว

ความเป็นมาในอดีตผู้ต้องการเดินทางท่องเที่ยวจะต้องติดต่อซื้อสินค้าทางการท่องเที่ยวโดยตรง ต่อมาจึงเกิดธุรกิจค้าปลีกที่อำนวยความสะดวกในการซื้อขึ้น โดย โทมัส คุก ได้เป็นแทรเวล เอเจนซี่ ขึ้นเป็นครั้งแรก ณ ประเทศอังกฤษ จึงทำให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าทางการท่องเที่ยวโดยไม่ต้องเดินทางไปซื้อยังผู้ประกอบธุรกิจ
บทบาทและหน้าที่ของ Travel Agency
1.จัดหาราคาหรืออัตราสินค้าทางการท่องเที่ยว เช่น ราคาตั๋วพาหนะ ราคาห้องพัก ราคาเช่ารถ
2.การจองใช้บริการยานพาหนะ การจองตั๋วเครื่องบิน เป็นการวางแผนการเดินทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง
3.รับชำระเงิน
4.ช่วยในการซื้อบัตรโดยสาร
5.ส่งบัตรโดยสารหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง
6.ช่วยเหลือลูกค้าในการซื้อสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวอื่นๆ
7. ออกบัตรโดยสารเครื่องบินและเอกสารอื่นๆ
ประโยชน์ของการใช้บริการจาก Travel Agency
-ช่วยวางแผนและหาข้อมูลในการท่องเที่ยว
-สามารถหาข้อเสนอหรือราคาที่ดีที่สุดได้
-ทำให้ประหยัดเวลาและความลำบาก
-ช่วยแก้ปัญหาได้เมื่อเกิดข้อผิดพลาด
-รู้จักผู้ประกอบธุรกิจมากกว่า
-รู้จักแหล่งท่องเที่ยวดีกว่า
Travel Agencyแบ่งเป็น 4 ประเภท
- แบบที่มีมาแต่เดิม Conventional Agencies แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ
- ประเภทเครือข่าย
- ประเภท Franchise
- ประเภท Consortium
- ประเภท อิสระ
ประเภทของการจัดนำเที่ยว
1. ทัวร์แบบอิสระ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวแบบอิสระ ทัวร์แบบอิสระจะทำให้นักท่องเที่ยวมีเสรีที่จะวางแผนกิจกรรมต่างๆได้เอง
2.ทัวร์แบบไม่มีผู้นำเที่ยว หมายถึง โปรแกรมทัวร์แบบเหมาจ่ายที่ได้รับการบริการจากตัวแทนของบริษัททัวร์ ณ แหล่งท่องเที่ยว ตัวแทนบริษัททัวร์จะเข้ามาพบนักท่องเที่ยวเพื่อให้คำแนะนำหรือคำปรึกษาในเวลาที่กำหนดไว้ในแต่ละวัน
3.ทัวร์แบบมีผู้นำเที่ยว หมายถึง โปรแกรมทัวร์แบบเหมาจ่ายที่รวมบริการของมัคคุเทศก์ตลอดเส้นทาง ทัวร์ประเภทนี้นักท่องเที่ยวจะเดินทางเป็นกลุ่มโดยจะมีมัคคุเทศก์ร่วมเดินทางไปด้วย

บทที่ 6 ที่พักแรม

ความเป็นมาธุรกิจที่พักแรมในสากล/ต่างประเทศที่พักแรมมีมาแต่ยุคโบราณ ย้อนหลังไปถึงยุคอารยธรรมกรีกและโรมัน เกิดขึ้นสนองความต้องการที่พักของนักเดินทางที่ไม่สามารถไปกลับได้ในวันเดียวธุรกิจที่พักแรมในประเทศไทยธุรกิจที่พักแรมสำหรับบริการนักเดินทางต่างชาติในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นอยุ่บริเวณริมฝั่นแม่น้ำเจ้าพระยาในสมัยรัชกาลที่ 4 มีชาวตะวันตกเข้ามาจำนวนมากปัจจัยพื้นฐานในการบริการที่พักแรม
1. ความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้พัก
2. ความสะอาดและสุขอนามัยในสถานที่พัก อาการ-เครื่องดื่ม และบริการที่เกี่ยวข้องสำหรับกิจการที่เสนอบริการในระดับมาตรฐานที่ดีขึ้นจะคำนึงถึงปัจจัยที่มีผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ ได้แก่
2.1 ความสะดวกสบายจากบริการสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายและสนองตอบความต้องการของผู้พักกลุ่มต่างๆ
2.2 ความเป็นส่วนตัว
2.3 บรรยากาศการตกแต่งที่สวยงาม
2.4 ภาพลักษณ์ของกิจการ และอื่นๆประเภทที่พักแรม
1. โรงแรม เป็นที่พักแรมที่นิยมมากของนักท่องเที่ยวทั่วไป"โรงแรม" หมายความว่า สถานที่พักที่จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในทางธุรกิจเพื่อให้บริการที่พักชั่วคราวสำหรับคนเดินทาง การจำแนกประเภทโรงแรม- ด้านที่ตั้ง ทำเลที่ตั้งกิจการมีผลต่อวิธีการเดินทางเข้าถึงแบะถือเป็นปัจจัยสำคัญลำดับต้นที่เอื้อต่อความสำเร็จเชิงธุรกิจ- ด้านขนาด โดยพิจารณาจากจำนวนห้องพักโรงแรม เช่น โรงแรมที่มีห้องพักต่ำกว่า 100 ห้อง ถือเป็นโรงแรมขนาดเล็ก โรงแรมขนาด 400 ห้อง จัดเป็นดรงแรมขนาดใหญ่- ด้านจุดประสงค์ของผู้มาพัก พิจารณาจากกลุ่มผู้พักส่วนใหญ่ของโรงแรมว่ามีจุดประสงค์ใดในการเดินทางหรือในระหว่างการพักอยู่โรงแรม- ด้านราคา พิจารณาจากอัตราราคาห้องพักโดยเปรียบเทียบระดับราคาเฉลี่ยของกิจการภายในเขตพื้นที่/ประเทศ- ด้านระดับการบริการ พิจารณาจากความครบครันในการบริการ ลักษณะบริการเสนอเเบบจำกัด ความหรุหราในการบริการตกแต่ง บริการแบบประหยัด- ด้านการจัดระดับมาตรฐานโดยใช้สัญลักษณ์ เครื่องหมายสัญลักษณ์ที่กลายเป็นที่รู้จักดีในสากล คือ ดาว 1 - 5 ดวง- ด้านความเป็นเจ้าของและรูปแบบการบริหาร แบ่งได้ 2 กลุ่มใหญ่ คือโรงแรมอิสระ เป็นโรงแรมที่เจ้าของกิจการดำเนินการเอง ตามนโยบายและวิธีการที่กำหนดขึ้นเองอย่างอิสระโรงแรมจัดการแบบกลุ่ม/เครือ หรือ เชน หมายถึง โรงแรมที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการแบบกลุ่ม มักมีการใช้ชื่อประกอบการที่แสดงความเป็นสมาชิกในกลุ่มเดียวกัน
2. ที่พักนักท่องเที่ยว- บ้านพักเยวชน หรือ โฮสเทล เป็นที่พักราคาประหยัดพัฒนาขึ้นเพื่อส่งเสริมให้เยาวชนเดินทางท่องเที่ยวในดินแดนต่างๆ เพื่อสร้างมิตรภาพและสันติภาพในสังคมโลกและสร้างประสบการณ์เรียนรู้จากการเดินทาง- ที่พักพร้อมอาหารเช้าราคาประหยัด ส่วนใหญ่เป็นบ้านแบ่งให้เช่าพักในต่างประเทศโดยเจ้าของบ้านแบ่งห้องพักที่ว่างให้แขกนอนและจัดอาหารเช้าไว้บริการในบรรยากาศค่อนข้างเป็นกันเองแบบครอบครัว- บ้านพักริมทางหลวง เป็นที่พักขนาดเล็กตั้งอยู่ใกล้หรือริมทางหลวงสายหลักระหว่างเมืองให้บริการห้องพักและที่จอดรถหน้าห้องพักในราคาแบบประหยัด มีสิ่งอำนวยตวามสะดวกจำกัดและอาจไม่มีบริการอาหาร- ที่พักแบบจัดสรรเวลาพัก เป็นทีพักบริการคล้ายโรงแรม ใช้วิธีจัดการเพื่อจัดสรรให้มีการหมุนเวียนเข้าพักในกลุ่มที่พักตากอากาศ- เกสต์เฮ้าส์ เป็นที่พักขนาดเล็กราคาประหยัดส่วนใหญ่ดัดแปลงมาจากจากบ้านพักเดิมที่เจ้าของแบ่งให้นักท่องเที่ยวเช่าพัก- อาคารชุดบริการที่พักระยะยาว หรือ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ เป็นที่พักให้ยริการห้องชุดสำหรับผู้พักระยะยาวเป็นสัปดาห์ เป็นเดือน หรือเป็นปีเน้นบริการห้องพักในรูปแบบคล้ายคลึงกับบริการโรงแรม มีห้องครัวปรุงอาหารได้ และจำกัดบริเวณสิ่งอำนวยความสะดวก- ที่พักกลางเเจ้ง เป็นที่พักแบบประหยัดที่สุดในประเทศตะวันตก โดยจัดพื้นที่ลานกลางเเจ้งสำหรับให้นักท่องเที่ยวทีนิยมใกล้ชิดธรรมชาติได้ตั้งค่ายพักหรือเต็นท์- โฮมสเตย์ หรือ ที่พักสัมผัสวัฒนธรรมชนบท เป็นรูปแบบบริการที่พักพร้อมกิจกรรมการท่องเที่ยว ที่พักมีลักษณะเป็นบ้านพักที่นักท่องเที่ยวพักร่วมกับเจ้าของบ้านแผนกงานในโรงแรม- แผนกงานส่วนหน้า เป็นศูนย์กลางการติดต่อระหว่างโรงแรมและแขกผู้พัก รับผิดขอบการรับจองห้องพัก การต้อนรับ ลงทะเบียน บริการข้อมูล ขนย้ายสัมภาระ และ รับชำระค่าใช้จ่าย- แผนกงานแม่บ้าน รับผิดชอบการจัดเตรียมห้องพักแขก การทำความสะอาดเรียบร้อยในพื้นที่ต่างๆ การซักรีด การจัดดอกไม้ตกแต่งสถานที่- แผนกอาหารและเครื่องดื่ม รับผิดชอบกระบวนการผลิตประกอบ/ปรุงอาหาร และการบริการอาหาร - เครื่องดื่ม ในพื้นที่ต่างๆรวมถึงการจัดเลี้ยง- แผนกขายและตลาด รับผิดชอบวางแผนตลาด และควบคุมการใช้กลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสมเพื่อสร้างรายได้แก่ธุรกิจ- แผนกบัญชีและการเงิน ดูแลจัดทำบัญชีและควบคุมการเงินของโรงแรม- แผนกทรัพยากรมนุษย์ ในบางกิจการขนาดเล็กจะเป็นแผนกบุคคลประเภทห้องพักSingle ห้องพักสำหรับนอนคนเดียว ในต่างประเทศจะเป็นห้องพักเตียงเดี่ยวTwin ห้องพักเตียงคู่แฝด ประกอบด้วยเตียงเดี่ยว 2 เตียง ตั้งเป็นคู่วางแยกกันDouble ห้องพักเตียงคู่ที่เป็นเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ สำหรับนอนได้ 2 คน บางครั้งให้บริการแก่ผู้พักคนเดียวเพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้นSuit ห้องชุดที่ภายในประกอบด้วยห้องตั้งแต่ 2 ห้องขึ้นไป โดยกั้นเป็นสัดส่วนแบ่งห้องนอนและห้องนั่งเล่น

บทที่ 5 การคมนาคมขนส่ง

ความหมายการคมนาคมขนส่ง หมายถึง "กระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายคน สัตว์ สิ่งของ จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง โดยอาศัยสื่อกลางต่างๆ ภายใต้ และ ราคาที่ได้ตกลงกันไว้"ความเป็นมาความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีด้านการขนส่งถือว่าเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลอย่างสูงต่อการพัฒนาด้านการท่องเที่ยว ทำให้เกิดแรงจูงใจที่สำคัญต่อการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆที่ห่างไกลออกไป เนื่องจากความรวดเร็ว สะดวกสบายที่นักท่องเที่ยวได้รับจากการใช้บริการยานพาหนะต่างๆที่ได้มีการพัฒนาจนเจริญทันสมัยขึ้นตามลำดับพัฒนาการขนส่งทางบกประวัติการขนส่งทางบห เริ่มขึ้นในสมัย 200 ปี ก่อนคริสตกาล หรือ ยุคบาบิลอน ซึ่งใช้คนลากรถสองล้อไปแบนถนน ก่อนที่จะนำสัตว์ มาช่วยลากรถสองล้อในยุคอียิปต์และกรีก จนกระทั่งในยุคโรมันจึงได้มีการพัฒนาการขนส่งจากรถลากสองล้อมาเป็นรถสี่ล้อที่ใช้ม้าลากพัฒนาการขนส่งทางน้ำจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ทำให้ทราบว่า การขนส่งทางน้ำเป็นการขนส่งที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยมีการพัฒนาแพขึ้นมาจากท่อนไม้ และ ต่อมานำต้นไม้ทั้งต้นมาขุด เจาะเป็นลำเรือการขนส่งผู้โดยสารทางเรือเริ่มขึ้นเป็นครั้งเเรกเมื่อปี ค.ศ. 1772 ในประเทศอังกฤษระหว่างเมือง Manchester กับ Longdon Bridgeพัฒนาการขนส่งทางอากาศหลังจากปี ค.ศ. 1903 ซึ่งเป็นปีที่สองพี่น้องตระกูล Wright ได้คิดค้นและประดิษฐ์เครื่องบินขึ้นครั้งเเรกเมื่อประสบความสำเร็จจึงทำให้หลายๆประเทศในยุโรปเห็นความสำคัญของการบินขึ้นประเภทของธุรกิจการคมนาคมขนส่งเพื่อการท่องเที่ยว
1. ธุรกิจการขนส่งทางบก การคมนาคมขนส่งทางบกจัดว่าเป็นรูปแบบการเดินทางที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะการเดินทางโดยรถยนต์การเดินทางท่องเที่ยวโดยรถไฟ ในประเทศไทยนั้นการเดินทางท่องเที่ยวทางรถไฟไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก เนื่องจากมีการเปรียบเทียบกับทางรถยนต์แล้วมีีราคาค่อนข้างแพง ใช้เวลานาน ไม่ค่อยสะดวกการเดินทางท่องเที่ยวโดยรถยนต์ส่วนบุคคล การเดินทางท่องเที่ยวทางรถยนต์ได้รับความนิยมมากจวบจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้การเดินทางท่องเที่ยวโดยรถเช่า การเดินทางท่องเที่ยวทางถนนนอกจากจะเกี่ยวข้องกับรถยนต์ส่วนบุคคลแล้วยังครอบคลุมถึงการเดินทางท่องเที่ยวโดยรถเช่า และรถตู้เพื่อนันทนาการธุรกิจการเช่ารถ เกิดขึ้นเพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่ชอบเดินทางโดยรถยนต์ และ นักธุรกิจที่เดินทางไปเจรจาธุรกิจรถโดยสารเพื่อการเดินทางท่องเที่ยว รถโดยสารมีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งเเต่สมัยรถม้าโดยสาร และปรับปรุงจนเป็นรถโดยสารที่ใช้เครื่องยนต์หลังจากได้มีการประดิษฐ์เครื่องยนต์ขึ้นใช้
2. ธุรกิจการขนส่งทางน้ำ เรือถูกใช้เป็นพาหนะการเดินทางสำรวจดินแดนเพื่อการค้าขายมานานกว่าพันปี นอกจากนี้เรือยังถูกใช้เป็นพาหนะคมนาคมขนส่งระหว่างเมืองท่าต่างๆ
3. ธุรกิจการขนส่งทางอากาศ การเติบโตของธุรกิจการบินพาณิชย์เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1950 ธุรกิจการบินขนาดใหญ่ได้ขยายตลาดการเดินทางท่องเที่ยวทางอากาศกว้างขึ้น ทำให้ยุคของการเดินทางท่องเที่ยวทางอากาศขนาดใหญ่ได้เริ่มขึ้น



บทที่ 4 องค์ประกอบสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

แหล่งท่องเที่ยวจัดเป็นปัจจัยที่สำคัญประการหนึ่งที่จัดเป็นองค์ประกอบหลักประเภทแรกคือ แหล่งท่องเที่ยว จัดเป็นปัจจัยที่สำคัญประการหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเเละเป็นปัจจัยที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาในประเทศ หากไร้ซึ่งเเหล่งท่องเที่ยวเเล้ว คงไม่มีนักท่องเที่ยวอยากเดินทางเข้ามายังประเทศนั้นๆ มี คำจำกัดความ 3 คำ ที่จำเป็นในการศึกษาแหล่งท่องเที่ยว ได้เเก่
1. ทรัพยากรทางการท่องเที่ยว หมายถึง สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติหรือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ทั้งที่อยู่ในรูปธรรมและนามธรรม
2. จุดหมายปลายทาง หมายถึง สถานที่ที่ใดที่หนึ่ง อาจจะเฉพาะเจาะจงหรืออาจเป็นสถานที่ทั่วๆไป หรืออาจเป็นหลายๆสถานที่ ต่อการเดินทางครั้งหนึ่ง
3. สิ่งดึงดูดใจทางการท่องเที่ยว หมายถึง สถานที่ที่มีศักยภาพในการดึงดูดให้ผู้คนเดินทางเข้าไปเยี่ยมชม หรือ ประกอบกิจกรรมเพื่อให้ได้รับความพึงพอใจ
จากความหมายทั้ง 3 คำ ข้างต้น อาจสรุปได้ว่า สถานที่ที่มีศักยภาพในการดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวหรือประกอบกิจกรรมต่างๆ เพื่อสนองต่อจุดประสงค์ด้านความพึงพอใจ หรือด้านนันทนาการ อาจเป็นสถานที่ใดที่หนึ่ง หรืออาจหลายๆที่ก็ได้ มีทั้งมนุษย์สร้างขึ้น หรือ เป็นแหล่งธรรมชาติ
ประเภทการท่องเที่ยว อาจแบ่งได้ด้วยลักษณะเฉพาะต่างๆได้เเก่ ขอบเขต ความเป็นเจ้าของ ความถาวรคงทน และศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นต้น
แหล่งท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติทั้งด้านชีวภาพ และกายภาพ รวมทั้ง บริเวณที่มนุษย์เข้าไปปรับปรุงแต่งเพิ่มเติมจากสภาพธรรมชาติในบางส่วน ซึ่งทรัพยากรประเภทนี้ไม่มีต้นทุนการผลิตแต่มีต้นทุนในการดูเเลรักษา
Ex. แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติในประเทสไทย: บางแสน เขื่อน อุทยาน และเกาะต่างๆ
Ex. แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติในต่างประเทศ: ภูเขาไฟฟูจิ แนวปะการัง Great Barrier Reef ทะเลทรายซาอาร่า น้ำตกไนแองการ่า เป็นต้น
แหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น คือ สถานที่ที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างและอายุ รวมทั้งรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เเตกต่างกันออกไป แต่สุดท้ายก็กลายเป็นทรัพยากรที่มีค่าทางการท่องเที่ยว
สำหรับโบราณสถานที่มีในประเทศไทยนั้นกรมศิลปากรได้แบ่งโบราณสถานออกเป็น 7 ประเภทได้แก่
1. โบราณสถานสัญลักษณ์แห่งชาติ
2. อนุสาวรีย์แห่งชาติ
3. อาคารสถาปัตยกรรมแห่งชาติ
4. ย่านประวัติศาสตร์
5. อุทยานประวัติศาสตร์แห่งชาติ
6. นครประวัติศาสตร์แห่งชาติ
7. ซากโบราณสถานและแหล่งโบราณคดีประวัติศาสตร์
แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นศิลปวัฒนธรรม ประเพณี และกิจกรรมของผู้คนในท้องถิ่น ที่พัฒนามาจากศิลปวัฒนธรรม ประเพณีการดำรงชีวิตของผู้คน แต่โดยความหมาย “วัฒนธรรม” หมายถึง “แบบอย่างหรือวิถีการดำเนินชีวิตของชุมชนแต่ละกลุ่ม เป็นตัวกำหนดพฤติกรรมการอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุขในสังคม” วัฒนธรรมแต่ละสังคมจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ และทรัพยากรต่างๆ ไม่ถือว่าเป็นทรัพยากรทางการท่องเที่ยว วัฒนธรรมที่เป็นรูปธรรมเท่านั้น จึงสามารถพัฒนาให้เป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวได้
แหล่งท่องเที่ยวในแต่ละภูมิภาคของประเทศไทย
ภาคกลาง เป็นดินแดนแห่งอารยธรรมที่สืบเนื่อง มาตั้งแต่สมัยทวารวดี โดยมีศูนย์กลางที่ลพบุรีและขยายอาณาเขตออกไป ทำให้พบแหล่งโบราณสถานที่รับวัฒนธรรมเขมร ด้วยความที่เป็นแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ มีประชากรหลายเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ จึงก่อให้เกิดงานศิลป์ผสมผสานที่งดงาม ตามวัดวาอารามต่างๆ เป็นมรดกของประเทศสืบทอดมาถึงลูกหลานในปัจจุบัน และบางแห่งทรงคุณค่าจนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกของโลก นอกจากนี้สภาพภูมิประเทศของภาคกลางยังเอื้ออำนวยต่อกิจกรรมการท่องเที่ยวมากมาย
ภาคเหนือ ภาคเหนือยังเป็นแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ของประเทศไทยทำให้พบโบราณสถานต่างๆ เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ชาวเหนือสังเกตมีวิธีการพูด ซึ่งเป็นภาษาไทยท้องถิ่นที่มีความไพเราะอ่อนหวาน แสดงถึงความ สุภาพอ่อนโยนในจิตใจ ความโอบอ้อมอารี และความเป็นมิตร งานหัตถกรรมมากมายที่สร้างสรรค์เป็นข้าวของเครื่องใช้ และของที่ระลึก ที่ได้รับความนิยมจนกลายเป็นสินค้าที่ระลึก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงมีหลายแห่ง อาทิ ภูเรือ ภูกระดึง ภูหลวง เขาใหญ่ ฯลฯ นอกจากนั้น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังเป็น อู่อารยธรรมเก่าแก่ของอาณาจักรโบราณต่างๆ และได้หลงเหลือโบราณสถานที่สำคัญ และมีงานหัตถกรรมต่างๆ จัดเป็นสินค้าที่ระลึกอันลือชื่อของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคตะวันตก ภาคตะวันตกมีภูมิศาสตร์ ภูมิอากาศ ความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ และท้องทะเลที่กว้างใหญ่ประชากรจึงประกอบอาชีพที่หลากหลาย รวมทั้งอาหารแปรรูปต่างๆ มีโรงงานอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ้งกำหนดให้เป็นแหล่ง อุตสาหกรรมหนักที่ต้องใช้พลังงานจากก๊าซธรรมชาติเป็นวัตถุดิบ เป็นแหล่งรวมแร่อัญมณีที่มีค่าของประเทศ รวมไปถึงการเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลกด้วย
ภาคใต้ มีที่ราบชายฝั่งทะเลยาวเรียบกว้าง น้ำตื้น ส่วนทางด้านทะเลอันดามัน เป็นลักษณะของชายฝั่งยุบต่ำลง อากาศค่อนข้างร้อน แต่เนื่องจากได้รัยอิทธิพลของลมมรสุม จึงทำให้มีฝนตกชุกตลอดทั้งปี ภาคใต้จึงมีเพียง 2ฤดูคือ ฤดูร้อน และฤดูฝน ประเพณีของภาคใต้ มีหลากหลายอาทิ การแสดงโนราห์ หนังตะลุง รองเง็ง และงานกินเจ เป็นต้น
ประเทศไทยมีมรดกโลกทั้งหมด 5 แห่ง ประกอบไปด้วยมรดกโลกทางธรรมชาติและมรดกโลกทางวัฒนธรรม ได้แก่
ทุ่งหญ้าห้วยขาแข้ง อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา แหล่งขุดค้นโบราณคดีบ้านเชียง ดงพญาเย็น-เขาใหญ่
ต้องประกอบด้วย 3 As เป็นสถานที่ที่มีความดึงดูดใจ ต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวก และสามารถเข้าถึงได้

วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

บทที่ 3 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเดินทางนักท่องเที่ยว

แรงจูงใจ ของนักท่องเที่ยวแตกต่างกันไปซึ่งเป็นตัวกำหนดบุคคลิกภาพของบุคคลแรงจูงใจของการพัฒนาบุคคลแรงจูงใจทางด้านการท่องเที่ยว
ทฤษฎีต่างๆเกี่ยวกับแรงจูงใจนักท่องเที่ยว
1. ทฤษฎีลำดับขั้นแห่งความต้องการจำเป็น โดยพิจารณาจากทฤษฎีแรงจูงใจของ Maslow คือมนุษย์มีความต้องการและเเสดงทุกอย่างเพื่อต้องการตอบสนองความต้องการ
2. ทฤษฎีขั้นบันไดแห่งการเดินทาง ผู้นำเสนอทฤษฎีนี้คือ Philip Pearce ความต้องการทางด้านการท่องเที่ยวมีความพัฒนาเป็นลำดับขั้นมีความลึกซึ้งซับซ้อนมากขึ้น
3. แรงจูงใจวาระซ่อนเร้น มี 7 ประการ คือ
- การหลีกหนีจากสภาพแวดล้อมที่จำเจ
- การสำรวจและประเมินตนเอง
- การพักผ่อน
- ความต้องการเกียรติภูมิ
- ความต้องการที่จะถอยกลับไปสู่สภาพดั้งเดิม
-กระชับความสำคัญทางเครือญาติ
- การเสริมสร้างการปะทะสังสรรค์ทางสังคม
4. แรงจูงใจในการท่องเที่ยวในทัศนะของ Swarbrooke

ปัจจัยที่ส่งเสริมในการท่องเที่ยวในแต่ละภูมิภาค
การที่คนบนโลกมีสภาพเเวดล้อมที่แตกต่างกันไปจึงทำภูมิทัศน์และเอกลักษณ์ของแตกต่างกันไปด้วย ประกอบด้วยมนุษย์มนุษย์มักต้องการเดินทางท่องเที่ยวไปยังบริเวณต่างๆ ส่งผลให้การเดินทางท่องเที่ยวไปยังบริเวณต่างๆทั่วโลก

บทที่ 2 ประวัติศาสตร์การท่องเที่ยวจากยุคเริ่มต้นถึงช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

การท่องเที่ยวในยุคกลาง (ค.ศ.500-1500)
เป็นช่วงที่วันหยุดมีบทบาทในชืวิตคนมากขึ้น แต่สำหนับชาวคาทอลิกทั่วไปการหยุดเพื่อการพักผ่อน หมายถึงพักผ่อนจาการไม่ทำงาน ไม่ใช่เดินทางไปไหนมาไหน เเต่ถ้าเปนคนชั้นสูงจะนิยมเดินทางเพื่อแสวงหาบุญปัญหาที่คนยุคกลางเจอในการท่องเที่ยวคือ โจรผู้ร้ายที่คอยออกมาปล้นนักเดินทาง มัคคุเทศก์ในสมัยนั้นจึงเป็นผู้นำทางและเป็ฯผู้ปกป้องนักเดินทาง ผลของการเดินทางแสวงบุญมี 3 ประเด็น คือ
1. มีเป้าหมายของการเดินทางเด่นชัดได้แก่การแสวงบุญ
2. ผลการเดินทางมีความสำคัญและความหมายทางด้านจิตใจเพราะเป็นเหตุการณ์สำคัญแห่งชีวิต
3. ผู้แสวงบุญต้องการให้คนอื่นเห็ฯถึงความสำความสำเร็จแห่งการเดินในรูปของที่ระลึก
การพัฒนาคนการคมนาคมทางถนนในคริสตศตวรรษที่ 17 ถึงต้นศตวรรษที่ 19
คนที่ต้องการเดินทางมี 3 วิธี คือ การเดินทางด้วยเท้าของคนจน วิที่สองคือการขี่ม้า วิธีสุดท้ายคือ ใช้เสลี่ยงแล้วมีคนรับใช้เป็นผู้แบกเป็นวิธีเดินทางของชนชั้นสูงเท่านั้น
ศตวรรษที่18 เริ่มการพัฒนาเป็นรถ 4 ล้อ มีระบบทางด่วนของผู้โยสารโดยมีปรับปรุงพื้นจราจรใหม่
ส่วนการเดินทางระยะไกลๆเรื่องที่พักเป็นสิ่งสำคัญเป็นประเภทinn เป็นที่พักที่เกิดขึ้นมากมายในสมัยนั้น
ในศตวรรษที่ 20 รูปแบบการเดินทางเปลี่ยนไปความนิยมในการเดินทางด้วยรถไฟเริ่มลดลงเพราะคนนิยมเดินทางด้วยรถส่วนตัว มีการกำเนิดอุตสาหกรรมการบินในระยะแรกเป็นจุดบ่งบอกที่สิ้นการเดินทางด้วยรถไฟ หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เครื่องบินได้รับการพัฒนามากและดีพอที่จะทำการขนส่งผูโดยสารเป็นการพาณิชย์และเป็ฯการบินระหว่างประเทศ

395 ปี บันทึกของปินโต

ประวัติของปินโต
ปินโตเป็นชาวเมืองมองเตอมูร์เก่า (Montemor-o-velho) ใกล้เมืองกูอิงบรา (Coinbre) ในราชอาณาจักรโปรตุเกส ปินโตเกิดในครอบครัวยากจนระหว่างค.ศ. 1509-1512 เมื่ออายุประมาณ 10 หรือ 12 ขวบจึงต้องเป็นเด็กรับใช้ของสุภาพสตรีผู้หนึ่ง ในค.ศ. 1523 ชีวิตของเขาตกอยู่ในอันตรายจนต้องหลบหนีลงเรือจากเมืองกูแอ ดึ แปดรา (Cue de Pedra) การผจญภัยของปินโตเริ่มขึ้นเมื่อเดินทางไปถึงเมืองดิว (Diu) ในอินเดียในค.ศ.1538 ขณะมีอายุได้ 28 ปี เขาเดินทางกลับมาตุภูมิเมื่อวันที่ 22 กันยายน ค.ศ. 1558 รวมเป็นเวลา 21 ปีของการแสวงโชคในเอเชีย ปินโตเคยเดินทางไปในเอธิโอเปีย จีน อาณาจักรของชาวตาร์ตาร์ (Tataria) โคชินไชนา สยาม พะโค ญี่ปุ่น และหมู่เกาะอินเดียตะวันออกในน่านน้ำอินโดนีเซียปัจจุบันปินโตเคยเผชิญปัญหาเรืออับปาง 5 ครั้ง ถูกขาย 16 ครั้งและถูกจับเป็นทาสถึง 13 ครั้ง ชีวิตในเอเชียของปินโตเคยผ่านการเป็นทั้งกลาสีเรือ ทหาร พ่อค้า ทูตและนักสอนศาสนา (missionary) เมื่อเดินทางกลับไปถึงโปรตุเกสในปีค.ศ.1558 เขาจึงพยายามติดต่อขอรับพระราชทานบำเหน็จรางวัล เนื่องจากได้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติและศาสนาอย่างเต็มที่ แต่กลับไม่ได้รับความสนใจจากราชสำนัก ปินโตจึงไปใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองปรากัลป์ (Pragal) ใกล้เมืองอัลมาดา (Almada) ทางใต้ของโปรตุเกส ปินโตเขียนหนังสือชื่อ “Pérégrinação”ขึ้น และถูกตีพิมพ์หลังจากเขาถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ค.ศ. 1583ปินโตเคยเดินทางเข้าสยาม 2 ครั้ง (กรมวิชาการ, 2531 : 115) ครั้งแรกเข้ามาในปัตตานีและนครศรีธรรมราชก่อนค.ศ.1548 ครั้งที่ 2 เข้ามายังกรุงศรีอยุธยาในรัชสมัยสมเด็จพระไชยราชาธิราช (ค.ศ.1534-1546) นักประวัติศาสตร์บางคนนำหลักฐานของฝ่ายไทยเข้าไปตรวจสอบความน่าเชื่อถือในเอกสารของเขาหลายประเด็น และชี้ให้เห็นความคลาดเคลื่อนของศักราชที่เขาอ้างถึงหลังจากปินโตถึงแก่กรรม บุตรีของเขาได้มอบต้นฉบับหนังสือเรื่อง “Pérégrinação” ให้แก่นักบวชสำนักหนึ่งแห่งกรุงลิสบอน ต่อมากษัตริย์ฟิลิปที่ 1 (Philip I of Portugal,1581-1598 และทรงเป็นกษัตริย์ฟิลิปที่ 2 แห่งสเปน - Philip II of Spain,1556-1598) ทรงได้ทอดพระเนตรงานนิพนธ์ชิ้นนี้ บุตรีของปินโตจึงได้รับพระราชทานบำเหน็จรางวัลแทนบิดางานเขียนของปินโตตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ ค.ศ.1614 และแปลเป็นภาษาต่างๆ อาทิ ภาษาฝรั่งเศส (1628) ภาษาอังกฤษ (1653) ใน ค.ศ.1983 กรมศิลปากรได้เผยแพร่บันทึกของปินโตบางส่วนในชื่อ “การท่องเที่ยวผจญภัยของแฟร์นังด์ มังเดซ ปินโต ค.ศ1537-1558” แปลโดยสันต์ ท. โกมลบุตร ต่อมากรมศิลปากรร่วมกับกรมวิชาการกระทรวงศึกษาธิการได้ตีพิมพ์ผลงานบางส่วนของเขาออกเผยแพร่อีกครั้งใน ค.ศ.1988 โดยแปลจากหนังสือชื่อ “Thailand and Portugal : 470 Years of Friendship” งานเขียนของปินโตถูกนำเสนอในรูปของร้อยแก้ว บางตอนก็ระบุว่าเรื่องที่ได้ยินได้ฟังมาจากคำบอกเล่าและการสอบถามผู้รู้ อาทิ เหตุการณ์เมื่อสมเด็จพระไชยราชาธิราชเสด็จสวรรคต บางตอนก็ระบุว่าเป็นผู้มีประสบการณ์ด้วยตนเอง เช่น เหตุการณ์เดินทางเข้ามายังสยาม 2 ครั้ง (กรมวิชาการ, 2531: 115) เป็นต้น

ตลาดน้ำอโยธยา








ตลาดน้ำอโยธยา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เกิดขึ้นได้เนื่องจากต้องการให้ พื้นที่เมืองอโยธยาที่ อยู่บริเวณรอบนอกเกาะกรุงศรีอยุธยา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่สะท้อนวิถีชีวิตชาวกรุงเก่า ความเป็นอยู่ของคนเมืองรวยน้ำใจ และ อู่ข้าว อู่น้ำ ที่สำคัญ ซึ่งทุกวันนี้แทบจะหาไม่ได้แล้ว กลับคืนมาอีกครั้ง ภายในตลาดน้ำประกอบด้วยพื้นที่ส่วนที่เป็นน้ำจะอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยพื้นที่บก แบ่งเป็น 16 โซน ตามชื่ออำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดอยุธยา มีทั้งโซนของกินในเรือ จะนั่งรับประทานริมน้ำ หรือจะเดินไปทานไปก็ไม่ว่ากันแล้วแต่สะดวก เรื่องของกินนั้นไม่ต้องห่วงเพราะที่นี่เขาคัดสรรของอร่อยทั่วเมืองไทยมารวมไว้ ส่วนของฝากของที่ระลึกก็มีให้เลือกชมเลือกช็อปมากมาย สไตล์เก๋ไก๋ เดินกี่รอบก็ไม่เบื่อ ซึ่งร้านค้าร้านขายของต่าง ๆ ที่เข้ามาขายส่วนมากก็เป็นคนในพื้นที่ นับเป็นการกระจายรายได้และสร้างอาชีพสู่ชุมชนได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมมากมายทั้งเวทีการแสดงพื้นบ้านต่างๆ รอบตลาด ขี่ช้างชมโบราณสถาน ถ่ายรูปคู่เสือ นั่งรถม้า ขับเอทีวี พายเรือในบริเวณตลาดน้ำ การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย อาทิ โขน รำไทย เพลงฉ่อย เพลงละคร Hilight ยามค่ำคืนกับการแสดง มินิ ไลท์ แอนด์ ซาวน์ วันธรรมดามี 3 รอบ วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 4 รอบ
เรียกได้ว่ามาที่เดียวได้ทั้งอาหารตาและอิ่มท้องในคราวเดียว ที่สำคัญเปิดบริการให้เที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เช้ายันค่ำ








<<<<<<<<< ร้านของฝาก



















ของฝากจากตลาดน้ำอโยธย>>>>>>>>




การเดินทาง
รถส่วนตัวมุ่งหน้าตามถนนสายเอเชีย เลี้ยวซ้ายเข้าอยุธยาไปตามถนนโรจนะ ขับตรงถึงเจดีย์วัดสามปลื้ม ก่อนขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา จากนั้นวนรอบวงเวียนเลี้ยวขวาเข้าทางวัดมเหยงคณ์ จะพบกับทางเข้าตลาดน้ำอโยธยา ซึ่งมีที่จอดรถรองรับกว่า 500 คัน
รถประจำทางขึ้นรถ บขส กรุงเพทฯ-อยุธยา ต่อรถสองแถวที่ตัวจังหวัด ลงปากทางเข้าวัดมเหยงคณ์ และนั่งรถรับจ้างเข้าตลาดน้ำอโยธยา
ตลาดน้ำอโยธยา65/12 หมู่ 7 ตำบลไผ่ลิง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาโทรศัพท์

0-3588-1733เปิด-ปิดเวลา 10.00น.-21.00น.

วันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

About ME



ชื่อ น.ส.ณัฐิภรณ์ สุวิบูรณ์
ชื่อเล่น นัท
เกิดวันที่ 11 ธันวาคม 2534
เรียน : คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์
สาขา การท่องเที่ยวและการโรงแรม
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
...............................................................................................